วันแรก กรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์-อมรปุระ-สะพานอูเบียน
12.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เข้าประตู 7 เคาน์เตอร์ N สายการบิน เมียนม่าร์แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก
14.50 น. บินตรงสู่เมืองมัณฑะเลย์ โดยสายการบิน เมียนม่าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 8M338
16.25 น. เดินทางถึงสนามบินมันฑะเลย์ หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางสู่เมืองอมรปุระ เมืองแห่งผู้เป็นอมตะที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นราชธานีแห่งหนึ่งของพม่าเพียง 76 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ในปี พ.ศ. 2400 นำท่านชมสะพานอูเบียน สร้างขึ้นจากไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมานทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ มุ่งตรงไปสู่เจดีย์เจ๊าต่อจี อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ พระเจ้าปุดงโปรดฯ ให้ขุนนางนามว่าอูเบียน เป็นแม่ทัพนายกองงานสร้างสะพานแห่งนี้ โดยใช้ไม้สักที่รื้อจากพระราชวังเก่าแห่งกรุงอังวะ จำนวน 1,208 ต้น ที่สร้างไว้เมื่อ 200 กว่าปีที่แล้ว มีความยาวถึง 2 กิโลเมตร เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองมัณฑะเลย์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ MANDALAY SHWE PHYU HOTEL หรือเทียบเท่า 3*
วันที่สอง มิงกุน-ล่องเรือแม่น้ำอิระวดี-เจดีย์มิงกุน-ระฆังมิงกุน-เจดีย์ชินพิวมิน-พระราชวังมัณฑะเลย์-วัดชเวนันตอ-วัดกุโสดอ-มัณฑะเลย์ฮิลล์
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านล่องเรือแม่น้ำอิระวดีสู่เมืองมิงกุน ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิระวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ” เนื่องจากระดับน้ำอิรวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าฤดูแล้วกว่า 10 เมตร ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอน ครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำในชีวิตประจำวัน
นำท่านชมเจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่ แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์ เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น ด้วยการทำสงครามแผ่ขยายไปรอบด้าน พร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมากก่อสร้างเจดีย์มิงกุนหรือเจดีย์จักรพรรดิ เพื่อประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีนโดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกาม และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,000 คน หลบหนีการขดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษ แล้วทำการซ่องสุมกำลังเป็นกองโจรลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆ โดยพม่ากล่าวหาว่าอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่าอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุด อย่างไรก็ตามงานก่อสร้างเจดีย์มิงกุนดำเนินไปได้เพียง 7 ปี พระเจ้าปดุงเสด็จสวรรคต ภายหลังทรงพ่ายแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ในพระราชหฤทัยของพระองค์จึงปรากฏเพียงแค่ฐาน ทว่าใหญ่โตมหึมาดั่งภูเขาอิฐที่มีความมั่นคงถึง 50 เมตร ซึ่งหากสร้างเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด และสูงที่สุดในโลก เพราะสูงถึง 152 เมตร ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
และไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุน คือระฆังมิงกุน ที่พระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดยสำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตัน เล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบ จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแห่งหนึ่งแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกเพียงใบเดียวทว่าระฆังเครมลินแตกร้าวไปแล้ว ชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวาน ทั้งนี้เคยมีการทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้ โดยให้เด็กตัวเล็กๆ ไปยืนรวมกันอยู่ใต้ระฆังได้ถึง 100 คน และนำท่านชม เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกล ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี” เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นด้วยหลักภูมิจักรวาลคือมีองค์เจดีย์สถิตอยู่ตรงกลาง ณ ยอดเขาพระสุเมรุ อันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาล ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูมิ สมควรแก่เวลาล่องเรือกลับตามเส้นทางเดิม
บ่าย รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านสู่พระราชวังหลวงมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace)โดยพระเจ้ามินดง สร้างขึ้นตามผังภูมิจักรวาลแบบพราหมณ์ปนพุทธ โดยสมมุติว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก (เขาพระสุเมรุ) เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีกำแพงล้อมรอบทั้งสี่ทิศ ใจกลางพระราชวังเป็นห้องพระมหาปราสาท ยอดปราสาทหุ้มด้วยแผ่นทองซ้อนกัน 7 ชั้น สูง 78 เมตร รอยอดีตสุดท้ายก่อนพม่าเสียเมืองให้แก่อังกฤษ
และเที่ยวชมวัดชเวนันตอ (Shwenuntow Temple) เคยตั้งอยู่ในเขตพระราชวังหลวง สร้างขึ้นในของสมัยพระเจ้ามินดงด้วยไม้สักทองชั้นดี แกะสลักศิลปะช่างมัณฑะเลย์แบบเก่าที่มีเอกลักษณ์หลังคาทรงปราสาท 5 ชั้น พร้อมปิดทองสุกสว่างทั้งหลัง แต่ต่อมาได้ถูกยกให้เป็นสำนักสงฆ์ แม้ว่าสีเหลืองอร่ามของทองคำจะจืดจางลงไปตามกาลเวลา แต่ภายในตัววัดด้านในก็ยังปรากฏสีทองสุกสว่างให้ได้ชม นอกจากนั้นวัดแห่งนี้ยังถือเป็นพระราชวังเก่าของพม่าที่มีลักษณะสมบูรณ์สวยงามที่สุดอีกด้วย หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าตี่ป่อก็ได้โปรดให้ทรงย้ายมาตั้งไว้ยังที่ปัจจุบัน และยังเคยเป็นที่ประทับนั่งสมาธิของพระเจ้ามินดงพระราชบิดาของพระเจ้าตี่ป่อ และสิ้นพระชนม์ชีพที่วิหารแห่งนี้ และนำท่านไปชมกรรมวิธีในการทำทอง เครื่องเงิน และงานหัตถกรรมต่างๆ ของชาวพม่า สามารถเลือกซื้อเครื่องประดับเงิน และทองได้ที่ช้อปแห่งนี้ นำท่านชมวัดกุโสดอ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครั้งที่ 5 มีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ และหนังสือกินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้ว่าเป็นพระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเดินทางสู่ยอดเขามัณฑะเลย์ Mandalay Hill ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตร เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่บนยอดเขา ณ จุดนี้ท่านสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์ เกือบทั้งเมือง ให้ท่านบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ MANDALAY SHWE PHYU HOTEL หรือเทียบเท่า 3*
วันที่สาม วัดพระมหามัยมุนี-มัณฑะเลย์-กรุงเทพฯ
04.00 น. นำท่านเดินทางสู่ วัดมหามัยมุนี (Mahamaimuni Temple) ซึ่งแปลว่า วัดปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ วัดมหามัยมุนีอยู่ห่างจากใจกลางเมืองลงมาทางใต้ราว 3 กิโลเมตร บนถนนที่ตัดตรงไปสู่อมรปุระ สร้างขึ้นในปี 1784 โดยพระเจ้าโบ่ต่อพญา แต่ร้อยปีให้หลังนั้นเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ทำให้ต้องสร้างซ้ำขึ้นใหม่ นำท่านร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี และกราบนมัสการพระมหามัยมุนี ***สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 แห่ง ของพม่า***เล่ากันว่าถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนีหรือวัดยะไข่ (วัดอาระกันหรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามุนีและในปี พ.ศ. 2422 สมัยพระเจ้าสีปอ ก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลี จึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า โดยรอบๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 จากนั้นกลับโรงแรมที่พัก
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินมัณฑะเลย์
11.00 น. ออกเดินทางกลับ โดยสายการเมียนม่าร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 8M337
13.35 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
KKKขอบพระคุณทุกท่านที่ใช้บริการKKK
อัตราค่าบริการ***7-9, 14-16, 28-30 ต.ค. / 4-6, 11-13, 18-20, 25-27 พ.ย. / 16-18 ธ.ค. 60
6-8, 13-15, 20-22, 27-29 ม.ค. / 3-5, 10-12, 17-19, 24-26 ก.พ. / 3-5, 10-12, 17-19, 24-26 มี.ค. 61
ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องละ 2-3 ท่าน) 9,999.- บาท
ราคาเด็กมีเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) 9,999.- บาท
ราคาเด็กไม่มีเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) 9,999.- บาท
พักเดี่ยวเพิ่ม 2,500.- บาท
อัตราค่าบริการ***21-23 ต.ค. / 2-4, 4-6, 9-11, 23-25 ธ.ค. 60
ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องละ 2-3 ท่าน) 10,999.- บาท
ราคาเด็กมีเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) 10,999.- บาท
ราคาเด็กไม่มีเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) 10,999.- บาท
พักเดี่ยวเพิ่ม 3,000.- บาท
อัตราค่าบริการ***30 ธ.ค. 60- 1 ม.ค. 61
ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องละ 2-3 ท่าน) 11,999.- บาท
ราคาเด็กมีเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) 11,999.- บาท
ราคาเด็กไม่มีเตียง (พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน) 11,999.- บาท
พักเดี่ยวเพิ่ม 3,500.- บาท
อัตรานี้รวม
ค่าตั๋วเครื่องบิน และภาษีน้ำมัน กรุงเทพฯ–มัณฑะเลย์–กรุงเทพฯ (ตั๋วกรุ๊ป) / ค่ารถโค้ชปรับอากาศบริการตลอดการเดินทาง / ค่าอาหาร และเครื่องดื่มที่ระบุไว้ในรายการ / ค่าที่พักตามที่ระบุไว้ในรายการ (กรณีพัก 3 ท่านๆ ที่ 3 เป็นเตียงเสริม) / ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ท่านละไม่เกิน 20 กก. / ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามรายการที่ได้ระบุไว้ / ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง 1,000,000 บาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรรมธรรม์) / มัคคุเทศก์บริการตลอดการเดินทาง
อัตรานี้ไม่รวม
ค่าทิปไกด์ และค่าทิปคนขับรถ รวมตลอดการเดินทาง 25 USD / ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ / ค่าวีซ่าสำหรับพาสปอร์ตต่างชาติ / ค่าอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ / ค่าธรรมเนียมกระเป๋าเดินทางที่น้ำหนักเกิน 20 กก. / ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มิได้ระบุไว้ในรายการ เช่น ค่าซักรีด โทรศัพท์ ค่ามินิบาร์ ฯลฯ / ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และกรุณาแจ้งล่วงหน้าตั้งแต่ทำการจองกรณีต้องการใบกำกับภาษี / ค่าธรรมเนียมใช้กล้องถ่ายรูปที่วัดประมาณ 300-500 จ๊าด / ค่าภาษีเชื้อเพลิงที่ทางสายการบินอาจมีการเรียกเก็บเพิ่มเติมอีก
***เงื่อนไขพิเศษสำหรับการจองทัวร์***
1. คณะจองจำนวนผู้ใหญ่ 10 ท่าน ออกเดินทางมีหัวหน้าทัวร์
2. กรุณาสอบถามยอดจอง และเช็ครายละเอียดต่างๆ ก่อนออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ, ซื้อตั๋วรถไฟ, ซื้อตั๋วรถโดยสาร และจองห้องพัก เพื่อประโยชน์ของลูกค้า
เงื่อนไขการจอง มัดจำท่านละ 5,000 บาท พร้อมแฟกซ์หน้าพาสปอร์ต / ส่วนที่เหลือจ่ายก่อนเดินทาง 15 วัน
ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 58 เป็นต้นไป
บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทย ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน
หมายเหตุ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ
- เนื่องจากสภาวะน้ำมันโลกที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ทำให้สายการบินอาจมีการปรับราคาภาษีน้ำมันขึ้นในอนาคต ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าภาษีน้ำมันเพิ่มตามความเป็นจริง เพราะทางบริษัทยังไม่ได้รวมภาษีน้ำมันใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น
- เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ ตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
- บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงหรือสับเปลี่ยนรายการได้ตามความเหมาะสมบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการ
เดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน
- การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
- เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ