วันแรก : กรุงเทพฯ – พุทธคยา พระมหาเจดีย์พุทธคยา ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระพุทธเมตตา
09.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ C สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียดและเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการต่อเครื่อง แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น ถือได้คนละ 1 ใบ บนเครื่องมีบริการอาหารครับ)
12.20 น. ออกเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา โดยสายการบิน THAI SMILE เที่ยวบินที่ WE327
14.00 น. ถึง สนามบินเมืองคยา ประเทศอินเดีย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่ พุทธคยา พุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุดใน 1 ใน 4 สังเวชนียสถานและถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก นำท่านเที่ยวชม พระมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และนำท่านนมัสการ พระศรีมหาโพธิ์ และพระพุทธเมตตา ซึ่งเป็นพระพุทธปางมารวิชัย ที่สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำ อายุกว่า 1,400 ปี
เย็น บริการอาหารค่ำที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ พระมหาเจดีย์พุทธคยา สมควรแก่เวลาพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองพุทธคยา BODHGAYA REGENCY HOTELหรือระดับเดียวกัน)
วันที่สอง : พุทธคยา – ราชคฤห์ เขาคิชฌกูฏ วัดเวฬุวัน นาลันทา หลวงพ่อดำ – พุทธคยา
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ นครหลวงแห่งแคว้นมคธ นำท่านเดินขึ้น เขาคิชฌกูฎ หนึ่งในเบญจคีรี ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นมัสการ ถ้ำพระโมคคัลลา ชม ถ้ำพระสารีบุตร สถานที่ที่พระสารีบุตรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ชม กุฏีของพระอานนท์ นมัสการ มูลคันธกุฏี สถานที่ประทับของพระพุทธเจ้า ไหว้พระสวดมนต์ที่ยอดเขาคิชกูฎ จากนั้นนำท่านชม วัดชีวกัมพวัน โรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลกและนำท่านเดินทางสู่ วัดเวฬุวนารามมหาสังฆยิกาวาส
(วัดเวฬุวัน) วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระอริยสงฆ์1,250 องค์ มีสถูปที่บรรจุพระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลานะและพระอัญญาโกญฑัญญะ
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นศูนย์การศึกษาในสมัยพุทธกาล ต่อมาในปีพ.ศ. 1742 กองทัพมุสลิมเติรกส์ได้ยกทัพมารุกรานรบชนะกษัตริย์แห่งชมพูทวีปฝ่ายเหนือ กองทัพมุสลิมเติรกส์ได้เผาผลาญทำลายวัดและปูชนียสถานในพุทธศาสนาลงแทบทั้งหมด และสังหารผู้ที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา นาลันทามหาวิหารก็ถูกเผาผลาญทำลายลงในช่วงระยะเวลานั้น ว่ากันว่าไฟที่ลุกโชนเผานาลันทานานถึง 3 เดือนกว่าจะเผานาลันทาได้หมด จากนั้นนำท่านเดินทางไปนมัสการ หลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นพระพระพุทธรูปที่สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำซึ่งสร้างรุ่นราวคราวเดียวกับพระพุทธเมตตา
ค่ำ บริการอาหารค่ำที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ พระมหาเจดีย์พุทธคยา สมควรแก่เวลาพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองพุทธคยา BODHGAYA REGENCY HOTELหรือระดับเดียวกัน)
วันที่สาม : พุทธคยา วัดนานาชาติ – เมืองพาราณสี
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารจากนั้นนำท่านชมวัดนานาชาติ วัดทิเบต วัดญี่ปุ่น วัดภูฎาน และ วัดไทย ซึ่งแต่ละวัดมีความงดงามที่แตกต่างกัน
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม หลังอาหารจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองพาราณสี หรือ วาราณสี (Varanasi) ดินแดนแห่งการแสวงบุญชำระบาป มรดกโลกที่มีชีวิตสี่พันปีของอินเดียและเป็นเมืองหลวงแคว้นกาสี มีแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่าน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี จัดเป็น
เมืองสุทธาวาสที่สถิตแห่งศิวเทพและถือว่าเป็นเมืองอมตะของอินเดีย เป็นที่แสวงบุญทั้งของชาวฮินดูและชาวพุทธทั่วโลก (วันนี้เดินทางไกล ใช้เวลาเดินทางเยอะหน่อยครับ)
เย็น บริการอาหารค่ำที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองพาราณสี THE AMAYA HOTELหรือระดับเดียวกัน)
วันที่สี่ : เมืองพาราณสี ล่องเรือแม่น้ำคงคา ธรรมเมกขสถูป สารนาถ – กุสินารา
05.00 น. นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำคงคา ซึ่งชาวฮินดูเชื่อถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากมวยผมขององค์พระศิวะ (แม่น้ำนี้ไหลมาจากที่ราบสูงทิเบตเทือกเขาหิมาลัย ประเทศจีนและเนปาล) ให้ทุกท่านได้ ลอยกระทงแม่น้ำคงคา ชม พิธีบูชาไฟ มหาศิวะราตรี และ การเผาศพ ของชาวฮินดูที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน รวมทั้งเป็นสถานที่คนนับล้านมุ่งหน้ามาเพื่อชมพิธีกรรมริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ (พิธีเผาศพริมแม่น้ำคงคาของศาสนาฮินดู) จากนั้นบริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองสารนาถ นำท่านสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ที่ ธัมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทาวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่แสดงปฐมเทศนาธรรมจักกัปปวัตนสูตร โปรดเบญจวัคคีย์ทั้งห้า ในสมัยพุทธกาลเป็นสถานที่สงบและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤษี นักบวชและนักพรตต่าง ๆ ที่มาบำเพ็ญตบะและโยคะเพื่อเข้าถึงพรหมัน (ตามความเชื่อของพรามหณ์) ทำให้ปัจจวัคคีย์ที่ปลีกตัวมาจากเจ้าชายสิทธัตถะมาบำเพ็ญตบะที่นี่ นำท่านชม มูลคันธกุฏี สถานที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาแรกและพรรษาที่ 12 ชม สถูปเจาคันธี ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ที่ปัญจวัคคีย์ได้พบกับพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ชม ยสเจดีย์ สถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมให้กับยสกุลบุตร ชม ธรรมราชิกสถูป เป็นสถูปที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาก่อน
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ดินแดนแห่งพุทธปรินิพพาน มหานครแห่งแคว้นมัลละ (วันนี้เดินทางไกล ใช้เวลาเดินทางเยอะหน่อยครับ)
ค่ำ บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมกุสินารา ROYAL RESIDENCY HOTELหรือระดับเดียวกัน)
วันที่ห้า : กุสินารา สังเวชนียสถานกุสินารา มกุฎพันธเจดีย์ – ลุมพินี เนปาล
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่ มหาปรินิพพานสถูป กุสินารา สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละคู่ เป็นพุทธสถานที่พระพุทธเจ้าประทานการบวชให้สาวกองค์สุดท้าย เป็นที่ตรัสเทศนาปัจฉิมโอวาทสุดยอดแห่งพระธรรมคำสอนคือความไม่ประมาท นำท่านนมัสการ พุทธวิหารปรินิพพาน ซึ่งภายในพระวิหารเป็นปฏิมากรรมพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน เหมือนกับได้กราบนมัสการพระบรมศพของพระพุทธเจ้าจริงๆ ชม พรามณ์เจดีย์ ซึ่งเป็นสถานที่แจกพระบรมสารีริกธาตุ นำท่านนมัสการ มกุฎพันธเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่โรงแรมหลังอาหาร นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลุมพินี ในเขตประเทศเนปาล ผ่าน เมืองโครักข์ปูร์ เมืองพรมแดนของอินเดียเข้าสู่ เมืองสิทธารัตถะ ของเนปาล สถานที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ถึง พรมแดนอินเดีย-เนปาล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเดินทางเข้าสู่ เมืองสิทธารัตถะ
ค่ำ บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองลุมพินี REDSUN RESORT หรือระดับเดียวกัน)
วันที่หก : ลุมพินี สังเวชนียสถานลุมพินี เนปาล วัดไทยลุมพินี – เมืองสาวัตถี
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารจากนั้นนำท่านชม มหาสังฆารามอนุสรณ์ ลุมพินี พุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญ 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า นำท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่ มหาสังฆารามอนุสรณ์ลุมพินี ชม มายาเทวีวิหาร ลุมพินี ภายในมีรูปพระนางสิริมหามายาเทวี แกะสลักด้วยหินเป็นรูปพระพุทธมารดายืนประทับเหนี่ยวกิ่งสาละอยู่พร้อมกับพระสนม และข้างหน้าเป็นรูปเจ้าฟ้าชายสิทธัตถะกุมารกำลังก้าวพระบาทไปบนดอกบัว ชม สระสรงสนานธารโบกขรณี ชม วัตถุสถานเสนาสนะสงฆ์และเจดีย์ สถานที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้สร้างไว้เป็นพุทธบูชาตลอดมาไม่ขาดสายตั้งแต่โบราณ ชม เสาอโศก ที่จารึกอักษรพรามณ์โบราณไว้ และนำท่านชม วัดไทยลุมพินี ซึ่งมีพระไทยจำพรรษาอยู่
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่โรงแรมหลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองสาวัตถี ในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล 1 ใน 16 แคว้น เป็นเมืองที่ใหญ่พอกับเมืองราชคฤห์และพาราณสี เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายและเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา รวมทั้งเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนามั่นคงที่สุด ปัจจุบันเมืองนี้เหลือเพียงซากโบราณสถาน ชมวิถีชีวิตชนบทของประเทศอินเดียระหว่างเดินทาง
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองสาวัตถี PAWAN PALACE หรือระดับเดียวกัน)
วันที่เจ็ด : สาวัตถี วัดเชตวัน บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี – เมืองลักเนาว์
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารจากนั้นนำท่านกราบนมัสการพระพุทธเจ้าที่ วัดเชตวัน เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นวัดที่พระพุทธเจ้ารวมทั้งพระอรหันต์ได้จำพรรษาอยู่นานที่สุดถึง 19 พรรษา สร้างโดยอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี กล่าวกันว่าต้องขนเงินมาปูพื้นที่ให้เต็มสวนจึงจะซื้อที่ดินมาสร้างวัดถวายแด่พระพุทธเจ้าได้ เพราะในสมัยนั้นดินแดนทุกแห่งเป็นของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ นำท่านนมัสการ กุฎิพระพุทธเจ้า กุฎิพระโมคคัลลา กุฎิพระสารีบุตร กุฎิพระสิวลี กุฎิพระอานนท์ และสถูปที่บรรจุสารีริกธาตุของพระอรหันต์ ชมบ่อน้ำที่พระพุทธเจ้าใช้เป็นที่สรงน้ำตลอดระยะเวลาที่จำพรรษานำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี, บ้านพ่อขององคุลีมา, เนินดินที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองลักเนาว์ ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตของชาวอินเดียแห่งรัฐอุตระประเทศ
ค่ำ เดินทางถึง เมืองลักเนาว์ บริการอาหารค่ำที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองลักเนาว์ GOLDEN TULIP HOTELหรือระดับเดียวกัน)
วันที่แปด : เมืองลักเนาว์ – เมืองอัครา
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองอัครา เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของประเทศอินเดีย เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุลและเป็นสถานที่ตั้งของทัชมาฮาล ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตของชาวอินเดียระหว่างเส้นทาง แวะบริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารระหว่างทาง (วันนี้เดินทางไกลนะ ใช้เวลาเดินทางเยอะหน่อยครับ)
ค่ำ เดินทางถึง เมืองอัครา บริการอาหารค่ำที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พักโรงแรมเมืองอัครา RAMADA HOTELหรือระดับเดียวกัน)
วันที่เก้า : อัครา ทัชมาฮาล อัคราฟอร์ท – เดลี
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำยมุนา สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวและหินทรายสีแดง ประดับประดาด้วยรัตนชาติหลากหลายชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี เพื่อแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ซาจาร์ฮาล ต่อพระมเหสี มุมตัสมาฮาล ที่สวรรคตเนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่ 14 ภายในทัชมาฮาล เป็นที่บรรจุร่างของพระนางมุมตัสและกษัตริย์ซาจาร์ฮาลที่สวยงามโดดเด่น (ทัชมาฮาล ปิดทุกวันศุกร์)
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม อัคราฟอร์ท พระราชวังที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นโดยใช้เวลาที่ยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ อาคารหินทรายสีแดงสร้างโดยกษัตริย์อัคบาร์ ที่นี่ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล โดยบุตรชายของพระองค์เอง พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์ นำท่านช้อปปิ้งของฝากจากเมืองอัครา สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเดลลี
เย็น บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางไปช้อปปิ้งของฝากกลับบ้าน สมควรแก่เวลานำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเดลี
วันที่สิบ : เดลี – กรุงเทพฯ
00.20 น. ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG316
05.45 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
อัตราค่าบริการ
|
ผู้ใหญ่
|
เด็ก
(พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน)
|
เด็ก (เสริมเตียง)
|
เด็ก (ไม่มีเตียง)
|
ท่านละ 60,995.-บาท
|
ท่านละ 60,995.-บาท
|
ท่านละ 58,995.-บาท
|
ท่านละ 56,995.-บาท
|
- พักเดี่ยว เพิ่มท่านละ 12,000.-บาท
- สำหรับท่านที่ต่อเครื่องเดินทางไปต่างจังหวัด ต้องเผื่อเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพราะต้องผ่านตม. รับกระเป๋าและเผื่อเครื่องดีเลย์ด้วยครับ
- หมายเหตุ
|
|
1.สำหรับอินเดีย การให้การบริการต่างๆ ชาวอินเดียจะขอทิป พูดง่ายๆคือตั้งแต่ออกจากสนามบินจนขึ้นเครื่องวันกลับ ดังนั้นทริปนี้จะรวมค่าทิปโรงแรม ร้านอาหาร บริการต่างๆไว้ให้แล้วครับ (ยกเว้นค่าทิปไกด์และคนขับรถ)
2.เส้นแสวงบุญสังเวชณียสถาน ควรจะมีพระวิทยากรบรรยายตลอดทริป เพื่อจะได้รู้ว่าที่ไหนคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรครับ
- แจกหมวก,กระเป๋าพับ,แผ่นรองนั่งสวดมนต์ และหนังสือสวดมนต์ รับในวันเดินทาง และเสริมอาหารไทยทุกมื้อครับ
|
- ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบิน THAI AIRWAYS ตามโปรแกรมทัวร์
- ค่าโรงแรมที่พัก 8 คืน (พักห้องละ 2 ท่าน)
- ค่าอาหารทุกมื้อพร้อมอาหารว่างและเครื่องดื่ม (ตามระบุในรายการ)
- ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยว
- ค่าประกันอุบัติเหตุ วงเงิน 500,000 - 1,000,000.-บาท/ท่าน (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์อุบัติเหตุ)
- ค่าภาษีสนามบินไทย + ค่าภาษีสนามบินอินเดีย
- ค่าวีซ่าและค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
- ค่าทิปบริการยกกระเป๋าของทุกโรงแรม
- มัคคุเทศก์นำเที่ยวพูดไทย
- พระวิทยากรบรรยายและนำสวดมนต์
- มัคคุเทศก์นำเที่ยวตลอดการเดินทาง
- ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามสายการบินกำหนด 30 กิโลกรัม
- ค่าทิปไกด์และคนขับรถอินเดีย (วันละ 5 ดอลล่า 9 วัน รวม 45 ดอลล่า)
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย (วันละ 50 บาท 9 วัน รวม 450 บาท)
- สิ่งที่ควรนำติดตัว : กล้องถ่ายรูป, ของใช้ส่วนตัว, ยารักษาโรคประจำตัว, รองเท้าสวมใส่สบาย, เสื้อกันหนาว
- การสำรองที่นั่ง
- วางมัดจำท่านละ 10,000.-บาท โดยผ่านบัญชี (ในวันที่ทำการจอง) พร้อมส่งชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษ ตรงกับหน้าพาสปอร์ต+ใบโอนเงินและระบุโปรแกรมทัวร์มาให้ด้วยนะครับ
- ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทาง 20 วัน (พร้อมแฟกซ์ใบโอนเงินและระบุโปรแกรมทัวร์)
- หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทาง)
- หนังสือเดินทางควรมีหน้าว่างๆ สำหรับประทับตราวีซ่าและตราเข้า-ออก อย่างน้อย 2 หน้า
- รูปถ่ายสีหน้าตรง พื้นหลังสีขาว ขนาด 2x2 นิ้ว จำนวน 4 รูป (ห้ามใส่เครื่องแบบราชการ) และต้องไม่ใช่สติ๊กเกอร์ หรือรูปพริ้นซ์จากคอมพิวเตอร์ (รูปใหม่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน+สำเนาทะเบียนบ้าน
- กรุณาส่งเอกสารล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันนะครับ
- หมายเหตุ : บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบเกี่ยวกับการปฎิเสธการเข้า-ออกนอกประเทศ อันสาเหตุมาจากหนังสือเดินทางมีอายุเหลือไม่ครบ 6 เดือนหรือการปฎิเสธการเข้าเมืองในกรณีอื่นๆ
- พาสปอร์ต : ท่านจะได้รับพาสปอร์ตคืนในวันเดินทางครับ
- สถานฑูตอินเดียอาจปฏิเสธไม่รับทำวีซ่าให้พาสปอร์ตของท่าน ในกรณีดังนี้
- ชื่อเป็นผู้ชาย แต่ส่งรูปถ่ายที่ดูเป็นหญิง เช่น ไว้ผมยาว หรือแต่งหน้าทาปาก
- นำรูปถ่ายเก่า ที่ถ่ายไว้เกินกว่า 6 เดือนมาใช้
- นำรูปถ่ายที่มีวิวด้านหลัง ที่ถ่ายเล่น หรือรูปยืนเอียงข้าง มาตัดใช้เพื่อยื่นทำวีซ่า
- นำรูปถ่ายที่เป็นกระดาษถ่ายสติคเกอร์ หรือรูปที่พริ้นซ์จากคอมพิวเตอร์
- หมายเหตุ : โปรแกรมท่องเที่ยวอาจมีการปรับเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวก่อนหลังได้ครับ โดยคำนึงถึงสภาพการณ์
เงื่อนไขอื่นๆ
• ราคาทัวร์นี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ค่าบริการหัก ณ ที่จ่าย 3 %
• บริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีประสงค์เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
• หากท่านถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยหรือประเทศปลายทาง ปฎิเสธการเข้าหรือออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ทำให้ท่านไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ถือเป็นเหตุซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินค่าทัวร์บางส่วนหรือทั้งหมด
• บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่าย ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การยกเลิกเที่ยวบิน การล่าช้าของสายการบิน ภัยธรรมชาติ การจลาจลและทรัพย์สินที่สูญหายระหว่างเดินทาง ที่เกิดขึ้นเหนืออำนาจความควบคุมของบริษัทฯ
• ในระหว่างเดินทาง หากท่านไม่ใช้บริการใดๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถเรียกร้องขอค่าบริการคืนได้
• บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการนำเที่ยวตามความเหมาะสมและสถานการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือและคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ
หมายเหตุ : บริษัทจะแจ้งเบอร์ไกด์ จุดนัดหมายและการเตรียมตัวเดินทาง ก่อนเดินทาง 5 วัน